การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจสภาวะช่องปาก คุณภาพชีวิตในมิติสุขภาพช่องปาก และความสัมพันธ์ระหว่างสภาวะช่องปาก
กับคุณภาพชีวิตในมิติสุขภาพช่องปาก เป็นการศึกษาแบบตัดขวางเชิงวิเคราะห์ในพลทหารแรกเข้า ผลัด 2 ปี พ.ศ. 2560 ในค่ายทหาร
แห่งหนึ่งในภาคใต้ ซึ่งมีระยะเวลาเกณฑ์ทหาร 2 ปี สุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิ เก็บข้อมูลการตรวจสภาวะช่องปากและสัมภาษณ์คุณภาพ
ชีวิตในมิติสุขภาพช่องปากด้วยแบบสอบถามที่ผ่านการตรวจความตรงเชิงเนื้อหาและความเที่ยงแล้ว ผลการศึกษาพบว่าพลทหารแรกเข้า
จำนวน 246 คน อายุเฉลี่ย 21.9±1.1 ปี มีปัญหาฟันผุร้อยละ 81.3, ฟันผุเหลือแต่รากร้อยละ 40.7, ฟันผุอุดถอนร้อยละ 85 และมีฟัน
คุดร้อยละ 32.5 มีจำนวนฟันผุเฉลี่ย 4.2 ซี่/คน, ฟันผุเหลือแต่รากเฉลี่ย 0.9 ซี่/คน, ฟันผุอุดถอนเฉลี่ย 5.1 ซี่/คน และมีจำนวนฟันคุดเฉลี่ย 0.5
ซี่/คน คะแนนเฉลี่ยคุณภาพชีวิตในมิติสุขภาพช่องปาก (OHIP-14) เท่ากับ 8.25±8.73 มิติที่ได้รับผลกระทบมากสุด คือ ความเจ็บปวด
ทางกายภาพ และความรู้สึกไม่สบายทางจิตใจ สภาวะช่องปากที่มีความสัมพันธ์กับคุณภาพชีวิตในมิติสุขภาพช่องปาก คือ การมีฟันผุเหลือ
แต่ราก และการมีฟันคุด สรุปได้ว่าพลทหารแรกเข้าที่มีระยะเวลาในการเกณฑ์ทหาร 2 ปี มีปัญหาสภาวะช่องปากสูงซึ่งมีความสัมพันธ์
กับคุณภาพชีวิตในมิติสุขภาพช่องปาก โดยผู้ที่มีฟันผุเหลือแต่รากหรือมีฟันคุดจะมีคุณภาพชีวิตในมิติสุขภาพช่องปากแย่ลง